1. Hagia Sopia พิพิธภัณฑ์ฮาเกียโซเฟีย
ค่าเข้าชม 40 TRY
เวลาทำการ : วันที่ 15 เมษายน – 25 ตุลาคม เวลา 09.00 – 19.00 น. วันที่ 26 ตุลาคม – 14 เมษายน เวลา 09.00 – 17.00 น.
พิพิธภัณฑ์ฮาเกียโซเฟีย เป็นสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในเมืองอิสตันบูลประเทศตุรกี เดิมเคยเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายออร์ทอดอกซ์สร้างโดยจักรพรรดิจัสติเนียนแห่งไบแซนไทน์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1453 จักรวรรดิออตโตมันมีชัยชนะเหนือจักรวรรดิไบแซนไทน์ สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 จึงดัดแปลงโบสถ์ให้เป็นสุเหร่าแทน โดยสุเหร่าฮาเกียโซเฟียเป็นสุเหร่าหลักของเมืองอิสตันบูลยาวนานกว่า 500 ปี ก่อนรัฐบาลตุรกีจะดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1935 ความโดดเด่นของที่นี่คือยอดโดมขนาดใหญ่และความงดงามของสถาปัตยกรรมการตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างศิลปะไบแซนไทน์กับศิลปะออตโตมันเข้าด้วยกัน2. Sultan Ahmed Mosque หรือ Blue Mosque สุเหร่าสีน้ำเงิน
ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
เวลาทำการ : 09.00 – 21.00 น. ในปัจจุบันสุเหร่าเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคือการละหมาด 5 เวลา ในช่วงที่มีการละหมาดไม่สามารถเข้าชมภายในได้ การเข้าชมในเวลาปกติผู้เข้าชมต้องแต่งกายอย่างสุภาพ ไม่สวมกางเกงหรือกระโปรงสั้น ผู้หญิงต้องสวมผ้าคลุมหัวด้วย
สุเหร่าสุลต่านอาห์เหม็ดที่ 1 หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน ตั้งอยู่ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์ฮาเกียโซเฟีย เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1609 เนื่องจากสุลต่านอาห์เหม็ดที่ 1 ต้องการสร้างสุเหร่าศิลปะตะวันออกแบบออตโตมันให้ใหญ่กว่าโบสถ์ฮาเกียโซเฟีย โดยสร้างหันหน้าเข้าหากันแต่อยู่คนละฝั่งเพื่อประชันความยิ่งใหญ่และสวยงาม เอกลักษณ์ของสุเหร่าแห่งนี้คือด้านในสุเหร่าประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าทั้งหมดยามต้องแสงจึงสวยงามมาก ทั้งยังมีลานด้านหน้าที่กว้างที่สุดในกลุ่มสุเหร่าแบบออตโตมันและมีหอสวดมนต์อยู่ถึง 7 หอ3. Topkapi Palace พระราชวังโทพคาปึ
ค่าเข้าชม 40 TRY
เวลาทำการ : วันที่ 14 เมษายน – 31 ตุลาคม เวลา 09.00 – 16.45 น. วันที่ 30 ตุลาคม – 15 เมษายน เวลา 09.00 – 18.45 น.
พระราชวังโทพคาปึ เมืองอิสตันบูล เดิมเป็นที่ประทับหลักของสุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมันระหว่างปี ค.ศ. 1465 – 1853 ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่จัดงานรับรองของรัฐบาลประเทศตุรกี พระราชวังแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างศิลปะและสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดของกลุ่มพระราชวังในสมัยออตโตมัน ตกแต่งอย่างหรูหรา มีอาณาบริเวณกว้าง ทั้งยังตั้งอยู่ในจุดที่สามารถชมวิวช่องแคบบอสฟอรัสได้อย่างสวยงาม ภายในเปิดให้เข้าชมเพียงบางห้องและบางตำหนัก เช่น ห้องแสดงเครื่องเคลือบพอร์ซีเลน ห้องแสดงหนังสือวิจิตรออตโตมัน และตำหนักแบกแดด4. Grand Bazaar ตลาดแกรนด์บาซาร์
เวลาทำการ : 08.30 – 19.00 น. ปิดทุกวันอาทิตย์
ตลาดแกรนด์บาซาร์ เมืองอิสตันบูลเป็นตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศตุรกี มีความเป็นมายาวนานกว่า 1,000 ปี นอกจากจะเก่าแก่ที่สุดแล้ว ยังเป็นตลาดในร่มสถาปัตยกรรมแบบออตโตมันที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย ภายในตลาดแกรนด์บาซาร์มีร้านค้ามากกว่า 4,000 ร้าน มีทางเข้ามากกว่า 21 ทาง แบ่งออกเป็นโซนตามประเภทสินค้าชัดเจน สินค้าหลักๆ ที่ขายในนี้คือ เครื่องเงิน พรม สิ่งทอ เสื้อผ้า วัตถุโบราณ ทองคำ และของที่ระลึก5. Cappadocia เมืองคัปปาโดเกีย
ค่าเข้าชม : กลุ่มโบสถ์มรดกโลกกลางแจ้งโกเรเม่ 20 TRY , เมืองใต้ดิน 15 TRY , ปราสาทอุชหิซาร์ 5 TRY
เวลาทำการ : สถานที่ท่องเที่ยวในคัปปาโดเกียจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 09.00 – 18.00 น.
เมืองคัปปาโดเกีย ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1985 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตุรกีที่มีภูมิประเทศโดดเด่น ลักษณะเป็นภูเขาหินและขรุขระเหมือนโลกพระจันทร์เพราะเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ชาวพื้นเมืองในสมัยก่อนเจาะภูเขาเป็นโพรงหินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในเมืองคัปปาโดเกียมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่มากมาย เช่น เมืองใต้ดิน ปราสาทอุชหิซาร์ และกลุ่มโบสถ์มรดกโลกกลางแจ้งโกเรเม่6. Oludeniz หาดโอลูเดนิซ
ค่าเข้าชม ; ฟรี
เวลาทำการ : ทุกวัน
หาดโอลูเดนิซ เป็นชายหาดที่สวยที่สุดในประเทศตุรกีและเป็นหนึ่งใน 5 ชายหาดและทะเลที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย เพราะเป็นจุดที่ทะเลอีเจี้ยนกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาบรรจบกัน เอกลักษณ์ของที่นี่คือ Blue Lagoon ชายหาดสีขาวคล้ายแหลมที่ทอดตัวออกไปกลางทะเล ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าสดใส ต้นไม้และภูเขาเขียวขจี ทั้งยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย เช่นนั่งบอลลูนชมทิวทัศน์มุมสูง ล่องเรือใบในทะเลอีเจี้ยน และอาบแดด7. Pamukkale ปามุคคาเล
ค่าเข้าชม ; 35 TRY
เวลาทำการ : วันที่ 15 เมษายน – 25 ตุลาคม เวลา 08.00 – 21.00 น. วันที่ 26 ตุลาคม – 14 เมษายนเวลา 08.30 – 17.00 น.
ปามุคคาเล หรือ ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศตุรกี ความโดดเด่นของที่นี่คือลักษณะภูมิประเทศที่เป็นหน้าผาหินปูนสีขาวเหมือนหิมะไล่ระดับลดหลั่นกัน โดยในแต่ละชั้นก็จะเป็นแอ่งน้ำแร่ที่เรียกว่า Travertine Hot Spring ที่เป็นแหล่งสปาธรรมชาติมาตั้งแต่โบราณ นักท่องเที่ยวนิยมไปแช่น้ำแร่ที่นี่เพราะเชื่อว่าแอ่งน้ำแร่แห่งนี้สามารถรักษาโรค เช่น โรคหัวใจ โรคไต และโรคไขข้ออักเสบได้8. Ephesus อีเฟซัส
ค่าเข้าชม ; 40 TRY
เวลาทำการ : วันที่ 15 เมษายน – 25 ตุลาคมเวลา 08.00 – 19.30 น. วันที่ 26 ตุลาคม – 14 เมษายน เวลา 08.00 – 17.30 น.
เมืองอีเฟซัส เป็นเมืองโบราณที่มีมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล เป็นเมืองหลวงของโรมันในอดีตและได้รับการยกย่องว่าเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดแห่งแรกในเอเชีย ศิลปะและสถาปัตยกรรมภายในเมืองเป็นแบบกรีก – โรมัน แหล่งท่องเที่ยวหลักๆ ภายในเมืองคือ The Library of Celcus หอสมุดประจำเมืองศิลปะแบบเฮลเลนนิสติก โรงละครเอฟิอุซ โรงละครกลางแจ้งโบราณที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประเทศตุรกี และวิหารเทพีอาร์ทีมิสแหล่งที่มา : https://travelblog.expedia.co.th