1.ดอยอ่างขาง
แม้จะต้องใช้เวลาเดินทางขึ้นลงเขาหลายชั่วโมงกว่าจะถึง แต่ดอยอ่างขางก็ยังคงเป็นที่เที่ยวยอดนิยม บนดอยอ่างขางเป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการปลูกฝิ่นรวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาให้ดีขึ้น สามารถเข้าไปเยี่ยมชมภายในสถานีซึ่งมีแปลงสาธิต แปลงวิจัยพืชผัก ผลไม้เมืองหนาว อีกทั้งสวนดอกไม้ที่งดงาม โดยเฉพาะต้นนางพญาเสือโคร่งซึ่งจะพากันเบ่งบานท้าลมหนาว และไร่สตรอว์เบอร์รี่กว้างที่สามารถเก็บผลสดๆ ได้จากต้น2.ดอยเสมอดาว
ขึ้นไปดูดาวที่ดอยเสมอดาว ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน ดอยเสมอดาวมีลักษณะเป็นลานกว้างสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยมากแห่งหนึ่ง และแน่นอนว่าในตอนเช้ามีทะเลหมอกให้ได้ชมกันด้วย ส่วนในตอนกลางคืนนั้นสามารถชมทะเลดาวที่ระยิบระยับทั่วฟ้า พร้อมสัมผัสอากาศหนาวเย็น นอกจากนี้ห้ามพลาดการเดินขึ้นผาหัวสิงห์ ลักษณะคล้ายหัวสิงโต บนจุดสูงสุดนั้นยังสามารถมองวิวทิวทัศน์โดยรอบได้ถึง 360 องศาเลยทีเดียว3.ภูชี้ฟ้า
ภูชี้ฟ้า คือจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ด้วยยอดเขาที่มีลักษณะเป็นยอดแหลมชี้ขึ้นไปบนฟ้า สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร มีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาวและบนภูเป็นทุ่งหญ้ากว้าง สามารถขึ้นไปยังจุดชมวิวได้ในตอนเช้ามืด เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทิวทัศน์ของทะเลหมอกในหุบเขา รวมถึงดอกไม้สวยงามทั้งดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งะบานในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ และดอกเสี้ยวซึ่งจะบานเต็มเชิงเขาในเดือนกุมภาพันธ์4.ดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเล นอกจากการไปถ่ายรูปบนจุดสูงสุดแล้ว บนดอยอินทนน์ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ทั้งเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาหลวง เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน พระมหาธาตุนภเมทนีดล พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ น้ำตกขนาดใหญ่หลายแห่งที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์ เป็นต้น5.ภูทับเบิก
ภูทับเบิก คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ภูเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีอากาศบริสุทธิ์ ภูทับเบิกเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ที่ปลูกกะหล่ำปลีเป็นแปลงกว้าง เรียกว่าเป็นแปลงปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว ในช่วงฤดูหนาวภูทับเบิกจะมีอากาศหนาวเย็น มีทะเลหมอกให้ชมตอนเช้า และมีดอกซากุระหรือนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งทั่วหุบเขา จึงเหมาะสำหรับมาพักผ่อนกางเต็นท์นอนดูดาวท่ามกลางธรรมชาติอย่างใกล้ชิด6.ภูกระดึง
สักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวมากมายต่างเดินทางหมายสัมผัสลมหนาวที่บางครั้งลดต่ำลงถึง 0 องศาเซลเซียส และบรรยากาศของดอยสูงที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด สัตว์ป่า ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก เส้นทางขึ้นภูระยะทางประมาณ 5.5 กม. ใช้เวลาประมาณ 3-5 ชั่วโมง ผ่านเส้นทางธรรมชาติที่จะมีจุดพักเป็นช่วงๆ จนถึงจุดกางเต็นท์ ขึ้นภูกระดึงแล้วห้ามพลาดการชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ชมน้ำตกถ้ำใหญ่ที่ประดับไปด้วยใบเมเปิ้ลสีแดงผลัดใบร่วงลงมา และชมวิวที่ผาต่างๆ เช่น ผานอน้อย ผาเหยียบเมฆ และผาหล่มสัก7.ภูลมโล
ภูลมโล ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ในช่วงฤดูหนาวภูเขาแห่งนี้จะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่งกินพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ซึ่งพร้อมใจกันเบ่งบานรับลมหนาวในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี นอกจากความงดงามของดอกไม้แล้ว ภูลมโลยังมีทัศนียภาพของขุนเขาสลับซับซ้อน หากขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดสูงสุด สามารถมองเห็นหมู่บ้านหมันขาวและไร่กะหล่ำปลีเบื้องล่าง นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง8.เขาพะเนินทุ่ง
เขาพะเนินทุ่ง คือจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ภูเขาสูงที่เต็มไปด้วยความอุมสมบูรณ์ผืนป่า มีดอกไม้และสัตว์ป่ามากมาย การเดินทางจะต้องใช้รถกระบะโฟร์วีลเท่านั้น ด้านบนเขาเป็นทุ่งหญ้ากว้าง มีจุดที่สามารถกางเต็นท์ได้ แน่นอนว่าไฮไลท์ของที่นี่คือทะเลหมอกซึ่งจะมีให้ชมหลายจุด สวยงามและคุ้มค่ากับการเดินทางแน่นอน9.ภูลังกา
พบกับผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ในจังหวัดพะเยา ที่วนอุทยานภูลังกา บนพื้นที่ประมาณ 7,800 ไร่ ซึ่งเต็มไปด้วยพืชพรรณจำนวนมาก ทั้งดอกไม้ป่าหายากและสัตว์ป่า อีกหนึ่งจุดหมายของผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่าขึ้นเขา นอกจากการพิชิตยอดดอยต่างๆ แล้ว บนภูลังกายังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เส้นทางเดินป่าศึกษาระบบนิเวศดั้งเดิมของป่าดิบเขา อีกทั้งยังมีทะเลหมอกและทุ่งดอกโคลเคลงซึ่งจะบานราวเดือนกรกฎาคม-ธันวาคมของทุกปี10.เขาช้างเผือก
เขาช้างเผือก จังหวัดกาญจนบุรี คือเส้นทางการผจญภัยที่นักผจญภัยไม่ควรพลาด เพราะการขึ้นเขานั้นจะต้องผ่านเส้นทางคดเคี้ยวและต้องเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขาอีกระยะทางประมาณ 8-9 กม. ในเส้นทางที่ลาดชัน และต้องปีนป่ายพอสมควร จุดวัดใจคือบริเวณสันคมมีดหรือจุดสันเขาที่มีลักษณะแคบขึ้นไป เป็นจุดที่หวาดเสียวที่สุด จนถึงยอดสูงสุดจะสามารถมองวิวได้ 360 องศา ชมความงดงามของธรรมชาติ ทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตาแหล่งที่มา : http://travel.truelife.com