1. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (จังหวัดอุตรดิตถ์, จังหวัดพิษณุโลก)
. หากพูดถึงภูสอยดาวช่วงหน้าฝน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี จุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือบริเวณลานสนสามใบภูสอยดาว ที่มีทุ่งดอกไม้บานสะพรั่งสวยงามท่ามกลางหมอกขาว ทั้งดอกหงอนนาคสีม่วง ดอกสร้อยสุวรรณาสีเหลือง และดอกหญ้ารากหอมสีม่วงเข้ม ยังมีน้ำตกให้ได้เที่ยวอีกด้วย เช่น น้ำตกภูสอยดาว น้ำตกสายทิพย์สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
- น้ำตกภูสอยดาว
- น้ำตกสายทิพย์
- ลานสนสามใบภูสอยดาว
- ลานหินลำน้ำภาค
2. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า (จังหวัดเลย, จังหวัดพิษณุโลก, จังหวัดเพชรบูรณ์)
. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ารวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและทางประวัติศาสตร์เข้าไว้ด้วยกัน ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงหน้าฝนจะได้สัมผัสทั้งอากาศเย็นสบายและหมอกที่ลอยฟุ้งไปทั่วเลยทีเดียว ความสวยงามไม่ได้มีแค่นั้น ราวเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมบริเวณลานหินแตกและลานหินปุ่ม จะถูกปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งมอส กล้วยไม้ ดอกไม้ แต่ที่เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดก็คือดอกเปราะภู บริเวณลานหินปุ่มที่ออกดอกสีขาวไปทั่วบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
- ลานหินแตก
- ลานหินปุ่ม
- น้ำตกตาดฟ้า
- น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร
- น้ำตกศรีพัชรินทร์
- น้ำตกหมันแดง
- ผาชูธง
- ภูแผงม้า
- กังหันน้ำ
- โรงเรียนการเมืองการทหาร
3. ภูทับเบิก (จังหวัดเพชรบูรณ์)
. เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ขึ้นชื่อเรื่องทะเลหมอกสีขาวที่ตัดกับยอดภูสีเขียว และไร่กะหล่ำปลีที่มองรวมกันแล้วสวยงามสุดๆ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ทะเลหมอกจะดูหนานุ่มเป็นพิเศษ ใครมาเที่ยวก็ต้องติดใจกับวิวเหนือเมฆที่เห็นได้แบบ 360 องศา พูดได้ว่าเหมือนยืนอยู่บนท้องฟ้า แค่ออกจากที่พักก็เห็นทะเลหมอกอย่างเต็มอิ่มได้แล้ว การเดินทาง - จากเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสัก ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตามทางหลวง 2011 และทางหลวงหมายเลข 2331 อีก 40 กิโลเมตร ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกอีก 6 กิโลเมตร เส้นทางจากหล่มเก่ามาภูทับเบิกสูงชันและคดเคี้ยวมาก รถบัสไม่สามารถขึ้นได้ ผู้ที่ใช้รถยนต์หรือรถตู้ ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง - จากพิษณุโลก ทางด้านอำเภอนครไทย ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เลยที่ทำการอุทยานฯ มาประมาณ 24 กิโลเมตร จะถึงภูทับเบิก หากขับรถต่อไปจะมาบรรจบกับเส้นทางที่ลงไปยังอำเภอหล่มเก่า .4. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (จังหวัดชัยภูมิ)
. อุทยานแห่งชาติป่าหินงามในช่วงฤดูฝนคือตั้งแต่ช่วงมิถุนายน-สิงหาคม นักท่องเที่ยวจะได้ชมทุ่งดอกกระเจียวที่เบ่งบานไปทั่วตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน ดอกกระเจียวสีชมพูอมม่วงขึ้นตัดกับสีเขียวของต้นหญ้า เป็นหนึ่งในช่วงที่สวยงามและน่าไปเที่ยวมากที่สุดของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
- ลานหินงาม
- เขาพนมโดม
- จุดชมวิวสุดแผ่นดิน
- น้ำตกเทพประทาน
- น้ำตกเทพพนา
5. เขื่อนรัชชประภา (จังหวัดสุราษฎร์ธานี)
. เขื่อนรัชชประภาหรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “เขื่อนเชี่ยวหลาน” อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาสก ใครอยากพักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบ หน้าฝนนี้ต้องไม่พลาดไปนอนแพที่เขื่อนรัชชประภา ช่วงพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณสันเขื่อนจะกรุ่นไปด้วยไอหมอกที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว และความสวยงามของทะเลสาบเหนือเขื่อนที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาและพื้นน้ำกว้างช่วยให้จิตใจสงบ พักผ่อนได้สบายๆ จนลืมเวลาแน่นอนสถานที่ท่องเที่ยวในเขื่อนรัชชประภา
- เขาสามเกลอ
- ถ้ำน้ำทะลุ
6. เขาค้อ (จังหวัดเพชรบูรณ์)
. ว่ากันว่าเขาค้อสวยที่สุดในฤดูฝน ทั้งทะเลหมอกที่ลอยฟุ้ง ความเขียวขจีของภูเขาและอากาศเย็นสบาย ทำให้เขาค้อเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตช่วงหน้าฝนที่จะไม่ทำให้ผู้มาเยือนผิดหวัง ที่พักบนเขาค้อก็มีให้เลือกหลายแห่ง สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่ 10 ที่พักเขาค้อ วิวดีๆ หมอกเน้นๆสถานที่ท่องเที่ยวในเขาค้อ
- วัดพระธาตุผาแก้ว
- พระตำหนักเขาค้อ
- แก่งบางระจัน
7. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (จังหวัดเชียงใหม่)
. หลายๆ คนมักจะนึกถึงดอยอินทนนท์เฉพาะช่วงหน้าหนาว แต่ขอบอกว่าหน้าฝนก็สวยไม่แพ้กัน ไม่เพียงแต่อากาศเย็นสบายกำลังดีแล้ว ความชุ่มฉ่ำของสายฝนทำให้พื้นป่าในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เขียวสดยิ่งขึ้น ถ้าไปเที่ยวหน้าฝนแนะนำให้ไปเดินป่าที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งมีหลายแห่งด้วยกัน เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ป่าไม้ที่สวยงามจะทำให้รู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียวสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
- ยอดดอยอินทนนท์
- พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
- น้ำตกแม่กลาง
- น้ำตกวชิรธาร
- น้ำตกวังควาย
- โครงการเพาะพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์
- โครงการหลวงอินทนนท์
- เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา
- เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติถ้ำบริจินดา
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว
8. วนอุทยานภูลังกา (จังหวัดพะเยา)
. เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรไปสักครั้งหนึ่ง ทิวทัศน์ของสายหมอกที่ไหลเอื่อยตามแรงลมผ่านทิวเขาเป็นวิวที่หาชมไม่ได้จากที่ไหนแน่นอน ถ้าใครพลาดทะเลหมอกในช่วงหน้าฝนยังมีทะเลหมอกช่วงหน้าหนาวให้ได้ชมเช่นกัน จุดชมวิวทะเลหมอกของภูลังกามีอยู่หลายจุด ที่นิยมกันคือบริเวณภูลังการีสอร์ท และภูเทวดาสถานที่ท่องเที่ยวในวนอุทยานภูลังกา
- ดอยภูนม
- ภูเทวดา
- ดอยภูลังกา
- ดอยหัวลิง
9. บ้านป่าบงเปียง (จังหวัดเชียงใหม่)
. เปลี่ยนบรรยากาศออกจากทะเลหมอกมาชมพื้นนาสีเขียวสดกว้างสุดลูกหูลูกตา ที่นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียงกันบ้าง ในช่วงเดือนสิงหาคมจะเป็นช่วงที่ทุ่งนาเขียวขจี พอเข้าปลายเดือนตุลาคมนาข้าวจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสวยงาม สำหรับใครที่ชอบถ่ายภาพแนะนำให้ไปช่วงบ่ายๆ ไปจนถึงพระอาทิตย์ตกดินเพราะแสงจะสวยเป็นพิเศษ การเดินทาง - จากด้านดอยอินทนนท์ เลี้ยวซ้ายตรงทางแยกที่จะไป อ.แม่แจ่ม ขับไปอีกประมาณ 12 กิโลเมตร จะพบป้ายน้ำตกแม่ปาน เลี้ยวขวาลงไปตามป้าย ผ่านน้ำตกห้วยทรายเหลือง น้ำตกแม่ปานและน้ำตกผาสำราญ จะถึงลานจอดรถ เส้นทางต่อจากนี้ไปต้องใช้รถ 4WD เข้าไปเท่านั้น ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร สามารถติดต่อเช่ารถไปได้ - จากอ.แม่แจ่ม จากที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มให้เลี้ยวขวา ตรงไปประมาณ 1 กิโล จะมีทางแยกซ้ายมือไปวัดพุทธเอิ้นและนาขั้นบันไดบ้านกองกาน ตรงไปเรื่อยๆประมาณ 10 กิโลเมตร ถึงบ้านทุ่งยาวขับตรงไป เลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลแม่นาจร 16 จะพบวัดทุ่งยาวให้เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบหมู่บ้านแม่มิงค์ เลี้ยวขวาตามป้ายร.ร.อินทนนท์วิทยา จะพบหน่วยจัดการต้นน้ำแม่อวม ขับต่อไปถึงบ้านป่าตึงให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนทางลาดยางซึ่งจะสิ้นสุดบริเวณนี้ ขับตรงไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบทางแยกเลี้ยวขวาไปบ้านป่าบงเปียง .10. น้ำตกทีลอซู (จังหวัดตาก)
. น้ำตกที่สวยงามและใหญ่ที่สุดของไทย ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่สวยที่สุดของน้ำตกทีลอซูเพราะน้ำเยอะและป่าเขียวชะอุ่ม แต่มีข้อเสียคือการเดินทางค่อนข้างลำบาก เพราะเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางจะปิดเส้นทางเดินรถยนต์ หากอยากไปเที่ยวช่วงหน้าฝนต้องติดต่อบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ เพราะมีเพียง 2 เส้นทางสำหรับการเข้าไปเท่านั้น คือ- การล่องเรือยางจากท่าทราย อำเภออุ้มผาง ไปตามลำน้ำแม่กลองใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง และเดินเท้าต่อไปยังน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
- เดินเท้าตามเส้นทางรถจากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวงถึงน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง
แหล่งที่มา : https://www.govivigo.com