ใครสนใจไปเที่ยวยุโรปกับคนรัก หรืออยากไปพักผ่อนในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศแสนโรแมนติก วันนี้ Sabuyholiday มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ มาแนะนำกับเมือง "เชสกี้ครุมลอฟ" เมืองมรดกโลกเล็กๆ ทางตอนใต้ของประเทศสาธารณรัฐเช็ก ที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งโบฮีเมีย” เนื่องจากยังคงรักษาสภาพบ้านเมืองเอาไว้ได้อย่างสวยงามเหมือนในอดีต และตัวเมืองมีพื้นที่ไม่กว้างมาก เพื่อนๆ สามารถเดินชมเมืองได้ทั่วทั้งเมืองโดยใช้เวลาเพียงไม่ถึงวัน ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีสถานที่ไหนบ้างตามไปดูกันเลย

จุดเด่นของเมืองเชสกี้ครุมลอฟ คือบ้านและอาคารทุกหลังล้วนใช้หลังคาสีส้มแดง ทำให้เมื่อมองจากมุมสูงเป็นภาพที่สวยงาม มีเอกลักษณ์สุดๆ แถมยังมีแม่น้ำวัลตาวา ไหลผ่านและล้อมรอบเมืองในลักษณะงอโค้งเป็นคุ้งน้ำไปตามเนินเขา คดเคี้ยวเหมือนรูปตัว S อีกด้วย บอกเลยว่าเก๋เว่อร์! โดยแนะนำให้ไปเที่ยวช่วงซัมเมอร์ ประมาณเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนมาก ท้องฟ้าสดใส ถ่ายรูปออกมาสวยมาก และยังมีจุดท่องเที่ยวในเมืองเชฟกี้ครุมลอฟที่ไม่ควรพลาดหลายจุด ได้แก่

ปราสาทเชสกี้ครุมลอฟ

ปราสาทเชสกี้ครุมลอฟ ที่มีหอคอยสีชมพูอ่อนหวานๆ ราวกับปราสาทเจ้าหญิงในนิยายแห่งนี้ เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสาธารณรัฐเช็ก มีอายุกว่า 700 ปี เคยเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของขุนนางถึง 3 ตระกูล ก่อนจะตกเป็นสมบัติของรัฐบาลในที่สุด โดยเราสามารถชมบริเวณโดยรอบปราสาท และขึ้นไปถ่ายรูปที่มุมมหาชนได้ฟรี แต่ถ้าจะเข้าไปชมด้านในต้องซื้อทัวร์

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 9.00-17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)

ค่าทัวร์ในปราสาท : 240/170 CZK

จัตุรัส Old Town Square

จัตุรัสเมืองเก่า หรือ Old Town Square เป็นจุดศูนย์กลางของเมือง เชสกี้ครุมลอฟ โดยบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของที่ว่าการเมือง ด้านหน้ามีเสาศิลาและบ่อน้ำพุ The Marian Plague Column ถือเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวยุโรป ที่นี่ โดยมีเก้าอี้พักผ่อนให้ได้นั่งเล่นหรือนั่งพักเหนื่อยอยู่รอบๆ บริเวณจัตุรัส ซึ่งจัตุรัสนี้ยังเป็นจุดศูนย์กลางในการจัดงานเทศกาลรื่นเริงต่างๆ ของเมือง หนึ่งในนั้นคือ เทศกาลกุหลาบห้ากลีบ เป็นงานใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองนี้ ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี โดยพื้นที่บริเวณจัตุรัสเมืองเก่าจะปิดการจราจร บ้านเรือนและอาคารต่างๆ ต่างพร้อมใจประดับประดาตกแต่งด้วยธงอย่างสวยงาม ให้ดูคล้ายเมืองในยุคกลาง รวมถึงการแต่งกายของคนที่มาร่วมงาน เป็นอีกหนึ่งเทศกาลน่ารักๆ ที่ไม่ควรพลาดเลย

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดวัน

ค่าเข้าชม : ฟรี

โบสถ์ St.Vitus

ไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมือง เชสกี้ครุมลอฟ กันต่อเลย เริ่มต้นที่ โบสถ์ St.Vitus หรือชื่อในภาษาท้องถิ่นว่า Kostel Svatého Víta เป็นโบสถ์คาทอลิกสมัยศตวรรษที่ 14 อายุกว่า 700 ปี ที่ผสมผสานศิลปะหลากหลายสไตล์เข้าด้วยกัน สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรมและประติมากรรมทั้งภายในและภายนอกโบสถ์ ตัวอย่างเช่น ด้านหน้าโบสถ์ที่เป็นงานออกแบบสไตล์โกธิคและบาโรก มีจุดสังเกตอยู่ที่หน้าต่างขนาดยักษ์ที่สูงเท่ากับผนังด้านนอกของโบสถ์ และหอคอยนีโอโกธิครูปทรงแปดเหลี่ยมที่สร้างเพิ่มขึ้นมาในศตวรรษที่ 19 ส่วนภายในโบสถ์มีงานศิลปะตกแต่ง เช่น แท่นบูชาหลักสไตล์บาโรกจากศตวรรษที่ 17 ประติมากรรมรูป St.Wenceslas นักบุญองค์อุปถัมภ์ของสาธารณรัฐเช็ก รวมถึงรูปนักบุญอื่นๆ

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 9.00-18.00 น.

ค่าเข้าชม : ฟรี

โบสถ์ St.Jost

ปิดท้ายด้วยการไปชมโบสถ์เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเมืองเชสกี้ครุมลอฟ นั่นก็คือ โบสถ์ St.Jost ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำวัลตาวา ก่อตั้งขึ้นมากว่า 700 ปี โดย Peter I. von Rosenberg ปัจจุบันโบสถ์แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาล Rosenbergs ซึ่งตัวอาคารและศิลปะของตัวโบสถ์เป็นสไตล์โกธิคที่ได้รับการอนุรักษ์ โดยอาคารสองชั้นของโบสถ์ St.Jost นั้นด้านบนเป็นหลังคาสูงซึ่งปกคลุมด้วยรางน้ำ และมีหอคอยที่มีโดมด้านบนสุด ซึ่งถ้าเราไปยืนถ่ายรูปที่สะพาน Lazebnicky จุดข้ามแม่น้ำที่ไหลเป็นเส้นโค้ง ก็จะได้ภาพวิวของหอคอยโบสถ์ St.Jost ในมุมที่สวยงาม

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดวัน

ค่าเข้าชม : ฟรี

อ้างอิง : https://www.govivigo.com/